ทริป ยกล้อ ณ เกาสง ( 4 วัน 3 คืน )
Intro นี้จะบอกวิธีการเดินทางไปเกาสง แล้วข้อมูลสำคัญของจังหวัดเกาสง ถ้าเพื่อนๆวางแพลนจะไปเที่ยวเกาสงกันเราแนะนำให้อ่านเลยน้า มีประโยชน์มากๆ ^^
Hellooooo ทุกคน วันนี้เราจะมาเรียงเล่าประสบการณ์ที่เราไปเปิ่นๆ มึนๆ อึนๆ ที่ “เกาสง” มา งงละสิๆ ทำไมเราถึงเขียนชื่อทริปนี้ว่า “ยกล้อ” แบบว่า… เรื่องมันยาวมากกก ( ก.ไก่ ล้านตัว ) ก่อนอื่นเราขอบอกตำแหน่งของ จังหวัดเกาสงก่อนเนอะ
เกาสง อยู่ตรงส่วนใต้ของเกาะไต้หวันโดยเพื่อนๆ สามารถนั่ง รถไฟความเร็วสูง รถไฟธรรมดา หรือ เครื่องบิน เพื่อเดินทางไป เกาสง ก็ได้ โดยการเดินทางไปเกาสง ถ้าใช้รถไฟความเร็วสูงจะใช้การเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ราคาค่ารถไฟความเร็วสูงจะอยู่ที่ 1630 NT ( สามารถจองตั๋วออนไลน์ได้ทาง : http://www5.thsrc.com.tw/en )
แต่ถ้า….เพื่อนๆนั่งรถไฟธรรมดา ก็จะเดินทางกันประมาณ 5 -7 ชั่วโมงแล้วแต่เส้นทางของรถไฟ ราคาค่าตั๋วจะอยู่ที่ 650 NT – 843 NT แล้วแต่เส้นทางของรถไฟคะ (เส้นทาง ของรถไฟไต้หวันจะมีสองเส้นทาง คือ Mountain line กับ Coast line โดยเพื่อนๆ สามารถจองตั๋วรถไฟออนไลน์ ได้ทาง : http://www.railway.gov.tw/en/booking.aspx?n=19679 )
โดยเลือกสถานีต้นทางเป็นที่ Taipei (สำหรับเพื่อนๆที่อยู่ไทเป) และสถานีปลายทางเป็นที่ Zuoying(เกาสง) ซึ่งสามารถจองล่วงหน้าได้ 2 อาทิตย์คะ
ส่วนการเดินทางโดยเครื่องบินนั้นเดินทางโดยประมาณ 3 ชม.คะ ราคาค่าตั๋วประมาณ 2,800 NT (ยังไม่รวมภาษีสนามบินนะคะ)แต่ถ้าเพื่อนๆในกรณีเดินทางมาจากไทยและต้องการบินตรงไปเกาสงเลยนั้น ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 8,500 บาท เดินทางประมาณ 3 ชม.คะ
การเดินทางในเกาสงส่วนมากนั้นเหมือนที่ไทเปเลยคะ คือจะใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก โดยเพื่อนๆสามารถซื้อบัตร iPass ได้ที่ตัวสถานีรถไฟที่เกาสงได้เลยหรือไม่ก็สามารถซื้อได้ที่ 7-11 ได้เช่นกันคะ ที่บอกว่าให้ซื้อบัตร iPass นั้นเพราะที่เกาสงกับที่ไทเปใช้ระบบบัตรกันคนละแบบคะ โดยค่าบัตรจะอยู่ที่ใบละ 100 NT ( เพราะ ที่เราซื้อเป็นลายการ์ตูนเลยแพงนิดนึง)
เรื่องของเรื่องที่เราไปเที่ยวที่เกาสงรอบนี้คือ….เมื่ออาทิตย์ก่อนที่ผ่านมาเรามีวันหยุดสามวัน หยุดสามวันทั้งทีโอกาสแบบนี้ไม่ใช่มีง่ายๆนะแก๊ พอคิดได้เท่านั้นแหละเรากับเพื่อนรีบเปิด พยากรณ์อากาศกันเลยคะ หาที่ๆไม่มีฝนตก หรือถ้ามีขอแบบตกน้อยที่สุดละกันและในที่สุดเราก็ได้ตัดสินใจกันว่าจะได้เกาสงกัน แต่กว่าจะตัดสินใจได้นั้นก็เกือบจะวันอังคารไปแล้วละ ฮาาาาาา
แล้วเรื่องฮาๆยังไม่จบแค่นั้นตามสไตล์ของคนที่ไม่เคยเตรียมตัวอย่างเราคะ(ยังจะกล้าอวด) ทริปนี้เรากับเพื่อนจองโรงแรมก่อนจะจองตั๋วรถไฟ เห้ยแก๊ เขาต้องจองตั๋วรถไฟก่อนปะวะมีอย่างที่ไหนนี่จองโรงแรมไปแล้วต้องรีบมาหาตั๋วรถไฟ แล้ววันที่ไปเนี่ยเป็นวันที่คนไต้หวันส่วนใหญ่ก็กลับบ้านไง ทุกรอบตอนนั้นคือที่นั่งเต็มหมดเลยอะ เรากับเพื่อนหน้าซีดแล้วคะจุดนั้น คือถ้าไม่ได้ตั๋วรถไฟนี่ทำไงวะ โรงแรมก็จองไปแล้วด้วยแผนเที่ยวก็จัดแล้ว ฮาาาาาาา แล้วด้วยความดวงดีกดไปกดมา กดเรื่อยๆ เอ้าเห้ยจองได้เฉย ตอนจองตั๋วรถไฟได้นี้กริ๊ดมากอะ เหมือนรอดตายแต่ยังไม่จบแค่นั้นคะ ไอ้ที่จองได้เนี่ยมันคือขาไป แต่ขากลับละ…. เราก็พยายามกดอีก กดแล้วกดอีกก็ไม่มี ณ จุดนั้นก็เลยคุยกับเพื่อน เอาวะกัดฟันสู้ค่ารถไฟความเร็วสูงกันไหม
จากใจว่าเราไม่อยากจองเท่าไรเพราะความงกส่วนตัวล้วนๆ แต่ทำไงได้ละจองโรงแรมไปแล้ว จองตั๋วค่าไปแล้วด้วย (ที่กล่าวมานั้นข้ออ้างล้วนๆที่สำคัญคืออยากเที่ยวมากกว่า 55) ดังนั้นขากลับมาไทเปเราเลยได้นั่งรถไฟความเร็วสูงแบบไม่ได้ตั้งใจนั้นเอง ฮาาาาาาา
หลังจากเตรียมพร้อมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มออกเดินทางกันเลยยยยยย และด้วยความงกของเรา เราจองรถไฟแบบถูกสุดๆ แบบ Coast line ในราคา 650 NT ใช้เวลาเดินทางนานหน่อยแต่ประหยัดเงินไปได้นิดนึง ฮาาาา
แล้วในวันที่เราเดินทางก็มีเรื่องฮาๆเกิดขึ้น นั้นก็คือ…… เราขึ้นรถไฟผิดคันคะ !!!! เรื่องมันเกิดขึ้นจากว่าตอนนั้นเรารีบมาที่สถานีรถไฟเพื่อเตรียมตัวขึ้นรถไฟอยู่แถวชานชาลา เรากับเพื่อนก็ดันเม้าท์เพลินพอเห็นรถไฟมาก็รีบขึ้นเลย คือไม่ได้ดูเลยว่าที่ขึ้นไปอะรถไฟเบอร์อะไร แล้วคือตอนเข้าไปกับเพื่อนก็คุยกันนะว่าแบบ …เห้ยแก คันนี้อะรถเราปะวะ เพื่อนตอบอย่างมั่นใจมากคะ ฉันก็ไม่ได้ดูวะแก นี่แบบเงิบเบาเบาเพื่อนก็พูดปลอบใจว่าแบบถ้าไม่ใช้เราก็ลงไงแก
เราก็แบบเออๆงันเดี๋ยวไปดูตรงที่นั่งก่อน ก็เลยสังเกตเห็นว่า…เราขึ้นรถไฟผิดคันกันจริงๆ! ความรู้สึกตอนนั้นคือ ฉันต้องรีบลงให้เร็วที่สุด เราก็รีบเลยคะรีบวิ่งเลยคะ แล้วกระเป๋าเราก็หนักไงแก๊ คือของคนสองคนรวมกันอะ ลองคิดดูว่าผู้หญิงสองคนจะมีอะไรบ้าง ของเยอะอลังการคะ ฮาาา แล้วระหว่างทางที่รีบวิ่งลงเราก็พูดขอโทษ ขอทางด้วยคะ แล้วพอถึงตรงที่ลงรถนั้นเหละ….ใจแทบสลาย ประตูปิดต่อหน้าต่อตาเลยอะแก๊ !!!!! เห้ยคือไม่โอป่ะวะ ตอนนั้นนี่อุทานออกมาพร้อมเพื่อนเลยอะว่า “เ_ี้ย !” แล้วเราไม่รู้ด้วยไงว่ารถคันนี้ประตูจะไปจอดไหน ตอนนั้นคือหน้าเสียอะไปต่อไม่ถูกเลยทีเดียว
ระหว่างที่กำลังเครียดกับเพื่อนอยู่นั้นก็มีคุณยายใจดีท่านนึง ท่านคงเห็นแกความเป็นต่างชาติของเราที่อุทานอะไรออกมา (ต้องขอโทษด้วยจริงๆคะ คือตอนนั้นสติหลุดมากๆเลยพูดคำนั้นออกไป ) ท่านก็พยายามพูดกับเราว่าแบบเออไม่เป็นไร เนี่ยเดี๋ยวสถานีหน้ารถจะจอดให้ลงแล้วไปเปลี่ยนรถนะ… ท่านก็พูดปลอบตลอดทางจนกว่าเราจะลงอะ พอถึงสถานีที่จะต้องเปลี่ยนก็บอกเราอีกทีว่าให้ลงที่นี่ แล้วก็มีคุณน้าใจดีที่บังเอิญว่าต้องลงสถานีนี้ด้วย เช่นกัน มาช่วยดูรถคันต่อไปให้ว่าเราต้องขึ้นคันไหนจนกว่าเราจะขึ้นรถกันเลยทีเดียว ความรู้สึกตอนนั้นนี่แบบ ขอบคุณมากๆจริงๆคะ คือสติหลุดกันไปทั้งคู่แล้วว่าแบบ ขึ้นรถผิดคันจะไปไงต่อดี ในหัวมีคำถามเยอะมากๆอะ
พอเราขึ้นรถคันตัวเองได้เท่านั้นแหละความหิวก็บังเกิดเลยทันทีเพื่อนเราก็จัดเลยคะ ข้าวกล่องที่ซื้อมากับขนม เราเองก็ขนการบ้านมาทำจากไทเปด้วย ฮาาาา ดูขยันเนอะ ขนการบ้านมาทำด้วย ระหว่างอยู่บนรถไฟเราก็ทำนู่นทำนี่ไปเรื่อยแปปๆก็ถึงเกาสงแล้ว~
ใครมาถึงที่นี่แล้วเราแนะนำให้เพื่อนๆซื้อบัตร iPass นะคะ เพราะที่เกาสงกับที่ไทเปนั้นใช้บัตรรถไฟฟ้าไม่เหมือนกันไม่สามารถใช้ด้วยกันได้คะ แต่บัตร iPass สามารถใช้ซื้อของได้ที่ 7-11 ได้ทั่วประเทศน่า~ โดยตัวบัตร iPass สามารถใช้ได้ทั้งรถเมล์และรถไฟเลย ~
กว่าเราจะถึงเกาสงนั้นก็เป็นช่วงมืดแล้ว เพื่อนเรากับเราก็เลยตัดสินใจเข้าโรงแรม เตรียมตัวเที่ยวของวันต่อไปเลยละกัน
แค่เริ่มอินโทรมาเพื่อนๆก็เริ่มเห็นแววการเที่ยวแบบยกล้อของเรากับเพื่อนรึยังเอ่ย~
ไปอ่านต่อกันเลย [รีวิวที่เที่ยวไต้หวัน] รีวิวที่ท่องเที่ยวใน เกาสง Kaohsiung (4 วัน 3 คืน) PART1 (EDA World + Dome Of light + Liuhe Night Market )
แสดงความคิดเห็น