พาร์ทนี้ต่อมาจาก [รีวิวที่เที่ยวไต้หวัน] รีวิวที่ท่องเที่ยวใน เกาสง Kaohsiung (4 วัน 3 คืน) PART Intro
ทริป ยกล้อ ณ เกาสง ( 4 วัน 3 คืน ) PART1
EDA World + Dome Of Light + Liuhe Night Market
DAY 1
EDA World : วิธีการเดินทางสามารถนั้งรถเมล์สาย 8503 หรือ ขึ้นรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี Zuoying แล้วต่อรถเมล์ สาย 8501 ไปลงที่สวนสนุกก็ได้ค่ะ ค่ารถจะอยู่ที่ 54 NT ตั๋วเข้าสวนสนุกนั้นสามารถซื้อได้ที่ EDA World เลยคะ ไม่จำเป็นต้องทำการจองล่วงหน้า โดยปกติค่าตั๋วขาเข้าสวนสนุกจะอยู่ที่ 899 NT สวนสนุกจะเปิดทำการตั้งแต่ 9.00 – 17.30 คะ
หลังจากเมื่อวานที่เราเดินทางกันมาอย่างหนักหน่วงแล้วนั้นเราก็ขอเริ่มต้นการ เที่ยวที่เกาสงโดยการ ย้อนวัยเด็กกันก่อนคะ โดยสถานที่นั้นก็คือ…สวนสนุก EDA World นั้นเองง ซึ่งสวนสนุก EDA World ไม่ได้เป็นแค่สวนสนุกเท่านั้นคะ ที่เลือกมาเที่ยวที่นี่อีกจุดประสงค์นึงนั้นก็คือ….. Outlet ขนาดใหญ่ของ EDA นั้นเองงงงงง ~ ไม่ใช้แค่นั้นคะคุณค่าาาที่นี่ยังมีชิงช้าสวรรค์อันใหญ่ให้ขึ้นไปชมวิวด้วยคะคุณ แต่ค่าขึ้นชิงช้าสวรรค์กับค่าสวนสนุกนั้นแยกกันนะคะ ต้องไปทำการซื้อตั๋วอีกทีนึงคะ
เมื่อวานเราก็ได้นอนพักเอาแรงอย่างเต็มอิ่มแล้ว เราก็ได้ทำการตื่นแต่เช้ารีบอาบน้ำแต่งตัว ยัดข้าว เพื่อรีบมาย้อนวัยเด็กกับเพื่อนที่ EDA World ~ ระหว่างทางที่เราได้นั่งรถเมล์มา เรากับเพื่อนทำตัวเหมือนเด็กมาก คือตื่นเต้นตลอดทาง เพราะมีแต่คนบอกเราว่า สวนสนุกที่ EDA World นั้นใหญ่แล้วยังมี Outlet ที่ใหญ่ด้วย ด้วยความที่มีที่เลือดช้อปปิ้งอยู่เต็มตัวนี่บอกเลยว่าเนื้อตัวสั่นมาก ( มั่นใจไหมคะ ว่าจะมาย้อนวัยหรือมาช้อปปิ้ง?? ) ฮาาาาาา
หลังจากนั้งรถเมล์กันมาประมาณ 30 นาทีแล้ว เราก็มาถึงสวยสนุกกันแล้วค่า แล้วสิ่งแรกที่เราลงจากรถมาแล้วเห็นคือ…. เจ้าสิ่งนี้… คือแก๊ หลังจากเห็นไอ้เครื่องเล่นนี้นี่แบบคิดว่าจะกลับบ้านเลยนะ แบบเอาแล้วไง หาเรื่องแล้วไงแก อายุอานาก็เริ่มเยอะแล้วด้วยนะ หาเรื่องมากอะ เราถึงขั้นหันไปพูดกับเพื่อนเลยนะว่าแบบ กลับกันไหมแก ฮาาาาา
เห็นเครื่องนี้แล้วมือไม้สั่นฉันไม่สู้นะ
เจ้าเครื่องนี้บอกเลยว่ามันใหญ่มาก กล้องถ่ายไม่หมดอะ เครื่องนี้วิธีการเล่นของเขาคือ เหวี่ยงเราไปมาครบ360 องศาเลยทีเดียว บอกเลยว่าถ้าใครกล้า ต้องมาลองที่นี่นะ ! เจ้าเครื่องเล่นอันนี้ชื่อของเขาคือ Tiān xuán dì zhuǎn ถ้าแปลเป็นไทยตามแบบฉบับความเกรียนของเราก็แบบ…. หมุนจากฟ้าลงดิน ( แปลได้อุบาทมากคะ อ่านข้ามไปนะ ฮาาา)บอกได้เลยว่าต้องลองมาเล่นกันนะ แต่เราขอบายยยย แบบว่า…แค่เห็นก็ขาอ่อนแล้วงะ
โอเคหลังจากที่ตื่นตะลึงกับเครื่องเล่นเเรกที่เราเห็นไปแล้ว เรากับเพื่อนก็ได้ทำการไป ซื้อบัตร ~ แล้วเรียกได้ว่าเรามาถูกวันจริงๆแกกก๊ วันที่เรามาเป็น วันฉลองวันชาติไต้หวัน(國慶日) ดังนั้นตั๋วเข้าสวนสนุกของเราจึงได้ส่วนลดราคา ~ เราสองคนกับเพื่อนได้โปรโมชั่น 2 ใบ 1010 NT หารครึ่งแล้วก็ตรงคนละ 510 NT ซึ่งเล่นได้ไม่อั้น ยังไม่หมดแค่นี้ปกติถ้าจะขึ้นชิงช้าสวรรค์จะต้องซื้อบัตรเพิ่มใช่ม่ะ แต่นี้ได้ขึ้นฟรีคะคุณค่าาาา เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆ กริ๊ดมากกก
เอาล่ะเราจะไม่บ่นมากละ เราจะพาทุกคนไปสนุกกับเราข้างในสวนสนุกดีกว่า ~
อันนี้เป็นแผนที่แต่ละส่วนของ EDA นะคะ
(ขอบคุณรูปภาพจาก เว็บ EDA World : http://www.edaworld.com.tw/en/ )
เข้าไปข้างในตอนแรกนั้นเรียกได้ว่าจับจุดกันไม่ถูกเลยทีเดียวว่าจะเล่นส่วนไหนก่อน ในตัวของสวนสนุกนั้น จะมีเครื่องเล่นทั้งในและนอกตัวอาคารคะ เรากับเพื่อนไปถึงก็เดินมั่วเลยสิคะงานนี้ ฮาาาา เราเดินผ่านเครื่องเล่น หมุนจากฟ้าลงดิน (ตั้งชื่อซะเสียเลย) มาสักพักก็มาเจอกับเครื่องเล่นที่มีลักษณะเป็นตัวยูคะคุณค่าา
นี่ก็แอบคิดนะมันจะเล่นเหมือนกับไวกิ้งหรือเปล่า แบบจะเล่นแรง เล่นมันขนาดไหนเรากับเพื่อนเลยทำการยืนดูว่าเครื่องมันเล่นยังไงก่อน (ว่าง่ายๆคือ ป๊อดคะ ฮาาาาา) คือไอ้เครื่องเล่นเนี่ย อารมณ์เหมือนรถไฟเหาะอะ แล้วแบบแกว่งไปมาจากหน้าไปหลัง แบบว่าขึ้นสุดลงสุดเลยคะ ไอ้ขึ้นสุดลงสุดนี่คือ ขึ้นไป 90 องศา แล้วค้างแปปนึง แล้วมันก็ดึงไปอีกฝั่งนึง แล้วเอาหน้าลงแบบ 90 องศา แล้วลงมาอีกข้างขึ้นไปอีก 90 องศาเป็นแบบนี้ 2 รอบอะ !!!! คือใจไม่สู้อีกแล้วคะ ฮาาาาา
เพื่อนเราก็พูดนะ ว่าเราเนี่ยซื้อตั๋วมาไม่คุ้มราคาเลย จุดนั้นคือ ยอมไม่คุ้มอะ เอาเงินไปเลยยยย น้องยอมมมม คือความสูงมันสูงกว่าตึก 2 ชั้นอีกนะเว้ย ! แล้วคนแบบฉันจะรอดหรอ ! กลัวเพื่อนๆไม่เห็นภาพ เราเลยมีรูปมาฝาก
ลองคิดดูดิแกกกกกก นี่ก้มลงถ่ายแบบสุดๆแล้วนะ กล้องยังเก็บไม่หมดเลย ถ่ายแบบพาโนราม่าด้วยยังเก็บไม่หมดเลยอะ !
หลังจากได้หวาดเสียวกับเครื่องเล่นนี้ไปแล้วก็ได้แต่บอกกับตัวเองว่า ไม่เป็นไร ยังมีเครื่องเล่นอื่นๆอีกเยอะนะแก ไม่เป็นไรๆ หลังจากปลอบตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราก็เลยมาเล่นเครื่องเล่นที่มีหน้าตาเหมือนซุปเปอร์สแปสแทน ฮาาาาา ในความคิดคือมันคงไม่น่ากลัวเท่าเครื่องเล่นอื่นๆ แต่จริงๆแล้วมันสูงมากกก มันสูงขนาดเห็นวิวสวนสนุกได้ทั่วเลยนะ…. คือตอนขึ้นไปนี่ ได้แต่หลอกตัวเอง ว่ามันไม่สูง แต่พอหันไปมองข้างๆนี่ขาอ่อนไปเลย ฮาาาาา
ตอนที่เครื่องมันจะลง บอกเลยว่ากริ๊ดก่อนชาวบ้านอะ เสียงนางนำมาเลยทีเดียว ฮาาาา แล้วตอนที่เครื่องลงมากระแทกน้ำ สิ่งแรกที่คิด คือ อายไลน์เนอร์ฉันยังอยู่ไหม !!! คือมันลงน้ำแรงมาก แล้วเราเป็นผู้หญิงที่ไม่มีตาอะ ! ถ้าไม่เขียนตาก็จะเป็นขีดๆเลยอะ (นี่ขนาดเขียนตาแล้วยังไม่ค่อยจะมีให้เห็นเลยคะ ) พอลงมาถึงน้ำเท่านั้นแหละถามเพื่อนเลย ตายังมีไหมๆ ฮาาาาา พอเล่นไปอันนึงแล้วเหมือนเครื่องจะเริ่มติด เรากับเพื่อนเลยเล่นเครื่องเล่นนี้กันอีกรอบ
หลังจากตัวเปียกกันเป็นที่เรียบร้อย เพื่อนเราเลยชวนไปเล่นเครื่องเล่นอันอื่น ที่ทำให้ตัวเเห้งกัน พวกเราเลยไปหาเครื่องเล่นในอาคารกันคะ แล้วเราก็มาเจอเครื่องเล่นอันนึงที่ไม่ค่อยมีคนต่อ เราเลยเออ เล่นก็ได้วะ มันคือเครื่องเล่นอันนี้ …
จากภาพมันดูไม่ค่อยสูงเนาะ เพราะเครื่องเล่นนี้สำหรับให้เด็กเล่น ไม่ค่อยน่ากลัวมากก ออกแนวมึนหัวเล็กน้อย
ไอ้เจ้าเครื่องนี้มันไม่มีอะไรมาก ไม่กริ๊ดเลย แต่ลงมาแล้วแอบมึนเบาเบา ถามว่าสนุกไหม ก็โอเคนะมึนหัวดี ฮาาาา ความสูงของเครืองก็ไม่มากอยู่ในระดับที่เราโอเค ~
พอนั่งเจ้าเครื่องนี้ไปรอบนึงก็แอบมึนเบาเบา เราเลยไปนั่ง โมโนแรลเล่นสักรอบให้หายมึนหัว พอนั่งเสร็จ ก็มานั่งคุยกับเพื่อนว่าจะเล่นอะไรต่อดี สรุปได้ว่า ไปเล่น…. รถของเล่นเด็กกันดีกว่า ฮาาาาาาาา ก็แบบว่าไม่อยากกริ๊ดแล้วง่ะ ก็ขอเล่นอะไรมุ้งมิ้งหน่อยได้ไหม
หลังจากทำการเกรียนที่ของเล่นเด็กไปแล้ว เราเลยมาต่อแถวเล่นเครื่องเล่นที่เห็นคนต่อแถวค่อนข้างเยอะอีกอันนึง ความรู้สึกที่เราได้เล่นเครื่องเล่นอันนี้บอกเลยว่ามันมาก นี่เล่นไปตั้งสามรอบ เครื่องเล่นอันนี้ตอนเล่นให้ความรู้สึกเหมือนรถไฟตะลุยอวกาศที่ดรีมเวอร์เลย
พอเล่นเสร็จไปสามรอบ เราก็ออกจากตัวอาคารว่าจะไปลองเล่นเครื่องเล่นข้างนอกดูบ้าง ตอนที่เดินๆอยู่ข้างนอกเวลาที่เงยหน้าขึ้นไปชั้นบนสุดมันจะเห็นว่ามันมีของเล่นอยู่ชั้นดาดฟ้าด้วย เลยอยากลองขึ้นไปกัน พอขึ้นไปถึงอย่างแรกที่ไปเล่น มีหน้าตาเหมือนกับ เครื่องเล่นกาน้ำชาบ้านเราอะ ที่มันจะหมุนๆๆๆ แต่อันนี้เขาจะหมุนตามรางไปเรื่อยๆ เครื่องนี้น่ากลัวมากกกเลย
เมื่อกริ๊ดกันหอมปากหอมคอแล้ว เราก็จะขอแนะนำเครื่องเล่นที่เราไปแย่งเด็กเล่นมาอีกอันละกันเนอะ ลักษณะเครื่องเล่นเป็นเหมือนกับม้าหมุนอะ คือฟังดูเหมือนไม่มีอะไรใช่ม่า เครื่องเล่นอันนี้พิเศษตรงที่อยู่บนดาดฟ้าคะ ! ตอนนั่งอยู่บนนั้นจะสามารถมองเห็นวิวสวนสนุกทั้งหมดได้เลยทีเดียว แอบน่ากลัวนิดๆ
พอเล่นเครื่องเล่นกันจนเหนื่อยแล้วนั้น ก็ถึงเวลาที่เรารอคอยนั้นก็คืออออ… พาเหรดของสวนสนุก ~ เราชอบดูมาก ไปที่ไหนก็ต้องไปดูให้ได้ แล้วด้วยความที่ช่วงที่เราไป มันใกล้ๆกับเทศกาลฮาโลวีนพอดี ธีมงานก็เลยเป็นแบบผีๆ แต่เป็นผีแบบมุ้งมิ้งน่ารักนะ ฮาาาา
หลังจากที่เราดูพาเหรดของสวนสนุกกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาแห่งการช้อปปิ้งงงง เย้~ ที่ Outlet ที่นี่บอกเลยว่าใหญ่มาก มันจะแบ่งทั้งหมดเป็นสามโซน คือ โซน A B และ C ในส่วนของโซน A จะมีจุดจำหน่ายบัตรขึ้นชิงช้าสวรรค์ด้วย
ตอนมาตอนแรกเรากับเพื่อนคุยกันอย่างดีว่าเราจะไม่เสียเงินซื้อของที่นี่ เราจะดูกันเฉยๆ ก็นั้นเหละคะคุ๊ณ ผู้หญิงพูดอะไรไว้อย่าไปเชื่อนะ ฮาาาา เพราะเมื่อเราเดินผ่านป้าย Sale เหมือนมีอะไรมาดูดอะแก นี่เดินเข้าร้านกระเป็ากันสนุกสนาน สรุปเราได้กระเป๋าใบเล็กๆมาหนึ่งใบ เพื่อนเราก็ไม่น้อยหน้าคะ นางก็ได้มาเช่นกัน ฮาาา แล้วก็ได้กระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาด้วยใบนึง (แอบกระซิบบอกก่อนว่า เพราะกระเป๋าใบนี่เหละเป็นที่มาของ ทริป “ยกล้อ” )
เมื่อช้อปปิ้งกันเรียบร้อยแล้ว เรากับเพื่อนก็ไปขึ้นชิงช้าสวรรค์กัน กว่าจะเดินมาถึง ฮาาาา เสียเงินหลายบาทจริงๆ แต่เมื่อมาถึงเราก็ต้องมายืนรอนิดหน่อย เพราะเนี่องจากว่าวันที่เรามาเป็นวันที่เปิดให้ขึ้นฟรี รอแปปเดียวก็ได้ขึ้นแล้ว บนชิงช้าสวรรค์มีช่องกระจกใสน้อยๆให้ถ่ายรูปด้วย แล้วเราดันเป็นคนกลัวความสูง น้ำตาจะไหลเลยแก แล้วนี่สูงกว่าที่เคยขึ้นมาก่อนด้วย หุยยยยยยย นั่งเกร็งสิคะ เพื่อนจะลุกมาถ่ายรูปข้างๆนี่ด่าเลยคะ ขนาดนางหายใจนี่ก็ขออะ แบบแกๆหายใจเบาเบา ค่อยๆขยับนะ…. เราเป็นคนกลัวความสูงแต่ค่อนข้างชอบขึ้นอะไรแบบนี้นะ ฮาาาา เพื่อนเราก็บอกทีปีนเขาปีนได้สูงกว่านี่อีก ก็มันไม่เหมือนกันปะวะแก๊ ปีนเขากับนั่งชิงช้าสวรรค์เนี่ย ! แต่วิวบอกเลยว่าสวยจริงๆ : ) คุ้มกับการนั่งเกร็งมากคะ
เมื่อทุกคนเต็มอิ่มกับสวนสนุกแล้วที่ต่อไปที่จะพาไปนั่นก็คืออออออออ Dome of light ที่ขึ้นชื่อมากๆที่เกาสง จาก EDA World สามารถนั่งรถเมล์สาย 8501 มาลงที่ สถานีรถไฟฟ้า Zuoying ได้คะ ที่เราแนะนำสายนี้เพราะสายนี้เป็นสายที่เข้ามาในเมืองเร็วคะ โดยป้ายรถเมล์ อยู่บริเวณ Outlet โซน C คะ ทางด้าน โซน A ก็จะมีรถจอดรับเหมือนกัน แต่แนะนำโซน C มากกว่า เพราะจะมีรถให้เลือกเยอะกว่าคะ
Dome of Light : พิกัดอยู่ที่ สถานีรถไฟ Formosa Boulevard
พอถึง สถานีรถไฟฟ้า Zuoying แล้ว ก็ขึ้น MRT มาลงที่สถานีรถไฟ Formosa Boulevard เพื่อมาดู Dome Of Light ที่ขึ้นชื่อมากของเมืองเกาสงคะ
มองจากรูปแล้วสวยใช่ไหมล่ะคะ : ) ถ้ามาดูของจริงจะสวยยิ่งกว่านี้อีกน้า
หลังจากเยี่ยมชม Dome Of Light เสร็จ จุดมุ่งหมายต่อไปก็คือ…. Liuhe Night Market 六合夜市
Liuhe Night Market 六合夜市 : พิกัดอยู่ที่ สถานีรถไฟ Formosa Boulevard ทางออก 11
เมื่อเดินมาถึงบอกเลยว่าท้องน้องร้องดังมากคะ คือพร้อมยัดเต็มที่แล้วของขึ้นชื่อของที่นี่นะคะ นั้นก็คือ….. อาหารทะเลนั้นเองงง โดยตามสองข้างทางที่เราเดินก็จะเห็น เด่นชัดสุดๆเลยก็คือกุ้งกับปูคะ
ดูรูปสิคะคุณค่าาาา น่ากินใช่ม่า กุ้งตัวใหญ่มากกกก ปูก็ตัวใหญ่ คือเห็นแล้วฟิน แล้วใครคิดว่ามาสั่งแล้วจะกินยังไง บอกเลยว่าไม่ยากคะคุณค่า~ ตรงบริเวณตรงกลางของตลาดทั้งสายจะมีโต๊ะให้เรานั่งทานกัน ดังนั้นโปรดอย่าเป็นกังวลจ้า แล้วอาหารทะเลที่นี่ เราว่าราคาไม่แพง ราคาที่เราเห็นติดที่ป้ายก็จะมีตั้งแต่ 300 – 700 NT ถ้าใครมาอย่าลืมมาทานกันนะ
ไม่พอแค่นั้นคะ เดินไปสักพักเราก็เจอกับไข่นกกระทาทอด แต่ที่นี่พิเศษกว่าที่อื่น คือเขาจะเป็นไข่นกกระทาใส่กุ้ง คือมองแล้วน่ากินมากๆ แล้วที่สำคัญราคาก็ไม่แพงด้วยยย คุ้มค่าแก่การลองๆ
มาต่อกันด้วยของขึ้นชื่อของไต้หวันนั้นก็คือ…. เต้าหู้เหม็นนั้นเองงง แต่เต้าหู้เหม็นที่นี่ทำรูปร่างออกมาน่ากินมากๆ ร้านนี้เขาทำออกรูปทรงจะคล้ายๆเฟรนฟรายจ้าาาาา มองตอนแรกเราก็ไม่นึกว่าเป็นเต้าหู้เหม็น ตอนแรกเรานึกว่าเป็น มันฝรั่งทอดชิ้นใหญ่ๆ ฮาาา แต่พอเงยหน้าอ่านเท่านั้นละ อ้าว เต้าหู้เหม็นนิหว่า แต่พอกินแล้วขอบอกต่อเลยว่ารสชาติอร่อยสุดๆ แล้วที่สำคัญไปกว่านั้นคือ กินเต้าหู้เหม็นทอดกับน้ำจิ้มไก่คะคุณค่าาาาา ของแปลกของแรร์มาอีกละ ฮาาาา
นอกจากเต้าหู้เหม็นร้านเป็นของขึ้นชื่อของไต้หวันแล้ว ที่นี่ยังมีของขึ้นชื่ออีกอย่างนะคะ มาแล้วต้องลองทานนั้นก็คือ….. ตีนไก่ คะ ! เราไม่ได้หยาบนะ แต่ตีนไก่ของที่นี่ฮิตจริงๆ คือเดินในตลาดเห็นขายหลายร้านมากอะ
จบแล้วคะวันแรก เป็นไงคะ สนุกไหม? ติดตามพาร์ทสองกันต่อเลย ที่นี่ [รีวิวที่เที่ยวไต้หวัน] รีวิวที่ท่องเที่ยวใน เกาสง Kaohsiung (4 วัน 3 คืน) PART2 (Lotus lake + Takao Railway museum + Heart Of Love river)
แสดงความคิดเห็น