พินอิน Pinyin (拼音)
บทนำเกี่ยวกับภาษาจีน
บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า จริงๆแล้วภาษาจีนนั้นมีแบ่งอยู่2 แบบ ได้แก่ แบบจีน และ แบบไต้หวัน ถ้าเป็นแบบไต้หวันเขายังคงยึดแบบดั้งเดิมของจีนที่ใช้กันมาช้านาน นั้นก็คือตัวอักษรจีนแบบตัวเต็ม และใช้ระบบจู้อิน Zhuyin ( 注音) ในการสะกดคำ แต่ ณ ปัจจุบันนี้ ในประเทศจีนได้เปลี่ยนแปลงมาใช้ระบบพินอิน Pinyin (拼音) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้อักษรโรมันมาใช้เป็นสัญลักษณ์ในการสะกดคำ ซึ่งมันทำให้ง่ายต่อการเรียภาษาจีนมากขึ้น ซึ่งทำให้ระบบนี้เป็นที่แพร่หลายมากกว่าระบบจู้อิน ที่ใช้ตัวอักษรที่คิดค้นขึ้นมาเอง และในวันนี้เราจะมาเรียนการสะกดคำง่ายๆแบบ Pinyin กันก่อนกันดีกว่านะคะ
พินอินคืออะไรกันน้า?
ก่อนที่เราจะไปเรียนภาษาจีนกันแบบจริงๆจังๆ เหล่าซือ(แปลว่าอาจารย์ในภาษาจีน) จะอธิบายความหมายของ “พินอิน” ให้นักเรียนทุกคนฟังก่อน “Pinyin พินอิน 拼音” คือตัวช่วยให้เราอ่านออกเสียงภาษาจีนได้อย่างถูกต้อง เพราะบางครั้งเวลานักเรียนใช้ภาษาไทยในการจดคำอ่านภาษาจีน มันอาจจะทำให้นักเรียนอ่านผิดเพี้ยนหรืออ่านได้ไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ พินอินมีลักษณะเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ ซึ่งผู้เรียนสามารถเข้าใจ และจดจำได้ง่าย และในเว็บไซต์นี้ก็จะใช้เป็น พินอิน ทั้งหมด เพื่อความง่ายและถูกต้อง
ถ้าเทียบกับภาษาไทยแล้ว พินอินก็เปรียนเสมือนสระและพยัญชนะของภาษาจีน
ทำไมเรียนภาษาจีนต้องเริ่มเรียนพินอินก่อนเป็นอันดับแรกอ่ะ?
เนื่องจากอักษรจีนเป็นอักษรที่พัฒนามาจากรูปภาพ และได้วิวัฒนาการจนมาเป็นอักษรเฉกเช่นปัจจุบัน เพราะฉะนั้นแค่มองตัวอักษรเราจะไม่รู้ว่ามันสะกดยังไง ต้องใช้ความจำเพียงอย่างเดียว “ตายล่ะ ใครจะไปจำได้ ตัวอักษรเยอะแยะตาแปะขายไข่ขนาดนั้น” เพราะฉะนั้นเราถึงต้องเรียนวิธีเขียนอ่านตัวสะกดภาษาจีนเอาไว้ หรือที่เรียกว่าพินอินซึ่งเปรียบเสมือน ก.ไก่ ข.ไข่ ในภาษาไทยนั่นเอง มันจะช่วยทำให้ชาวต่างชาติอย่างเราเขียนอ่านภาษาจีนได้สะดวก แล้วยังช่วยเราออกเสียงได้อย่างถูกต้องด้วย นอกจากนั้นใครที่รู้พินอินแล้วก็สามารถพิมพ์ภาษาจีนได้อย่าง่ายดาย
พินอินไม่ใช่การถอดเสียงแบบภาษาอังกฤษ (Anglicization) !!
หลายๆคนคงคิดว่าพินอินคือการถอดเสียงแบบภาษาอังกฤษ ง่ายๆไม่เห็นจำเป็นต้องเรียน ขอให้คิดใหม่ได้เลยยย จริงๆแล้วมันแค่ยืมอักษรโรมันมาแทนเสียงตัวสะกด เช่นอักษร q ในระบบพินอินเป็นเสียง “ช” ไม่ตรงกับในภาษาอังกฤษเลย และยังมีกฏอีกมากมาย เช่นการผสมคำ และการใส่เสียงวรรณยุกต์ที่แตกต่างจากระบบการออกเสียงในภาษาอังกฤษอย่างสิ้นเชิง
องค์ประกอบของพินอิน
- 声母: พยัญชนะ มี 23 เสียง
- 韵母: สระ แบ่งออกเป็นสระเดี่ยว และ สระผสม ทั้งหมด 36 เสียง
– สระเดี่ยวมี 6 เสียง
– สระผสมมี 30 เสียง - 声调: เสียงวรรณยุกต์ มี 4 เสียง และเสียงเบา(จะเรียนในบทต่อไป)
เสียงพยัญชนะ 声母 ทั้ง 23 เสียงของภาษาจีน
พยัญชนะ | วิธีการออกเสียง | วิธีการออกเสียง(ฟัง) |
b | ป |
|
p | พ |
|
m | ม |
|
f | ฟ |
|
d | เตอ |
|
t | เทอ |
|
n | เนอ |
|
l | เลอ |
|
g | เกอ |
|
k | เคอ |
|
h | เฮอ |
|
j | จี |
|
q | ชี |
|
x | ซี |
|
z | จือ |
|
c | ชือ |
|
s | ซือ |
|
zh | จรือ(อ่านเป็นเสียงเดียว) |
|
ch | ชรือ(อ่านเป็นเสียงเดียว) |
|
sh | ซรือ(อ่านเป็นเสียงเดียว) |
|
r | ยรือ(อ่านเป็นเสียงเดียว) |
|
y | ยี | |
w | อู |
เสียงสระ 韵母 ทั้ง 36 เสียงของภาษาจีน
1.สระเดี่ยว มี 6 เสียง
สระเดี่ยว | วิธีการออกเสียง | วิธีการออกเสียง(ฟัง) |
a | อา |
|
o | โอ |
|
e | เออ |
|
i | อี |
|
u | อู |
|
ü | อวี(อ่านเป็นเสียงเดียว) |
|
2.สระผสม มี 30 เสียง
- a) ai ao an ang
- o) ou ong
- e) er ei en eng
- i) ia iao ie iu ian in iang ing iong
- u) ua uo uai ui uan un uang ueng
- ü) üe üan ün
วิธีการผสมเสียง(พยัญชนะ+สระ)
วิธีการผสมเสียงต้องประกอบด้วย พยัญชนะ + สระ + เสียงวรรณยุกต์(เรียนในบทต่อไป)
- พยัญชนะ รวมกับ สระเดี่ยว 1 ตัว(พยัญชนะจะไฮไลท์สีชมพู) เช่น
- P + a = Pa
- พยัญชนะ รวมกับ สระผสม เช่น
- สระผสม 2 ตัว เช่น bai gei hao tou ฯลฯ
- สระผสม 3 ตัว เช่น bang teng tong ฯลฯ
- สระผสม 4 ตัว เช่น xiong liang lieng ฯลฯ
*ข้อควรระวัง*
แม่สะกดในภาษาจีนที่ต้องตามหลังเสียงสระ ก็มีน้า! (อันนี้ไม่ต้องคิดมาก ใช้บ่อยๆเดี๋ยวก็เป็นเอง)
- -n เหมือนแม่กนและกงในภาษาไทย
- -ng เหมือนแม่กง
- r มีไว้แสดงเสียงเอ้อ ต้องเอาปลายลิ้นงอขึ้นไปแตะที่เพดานปาก
- สระ u อู(อู) ไม่ใช้กับพยัญชนะ y, j, q, x
- สระ ü อวี
-ถ้าใช้ควบคู่กับพยัญชนะ y, j, q, x จะต้องตัดจุดสองจุดที่อยู่ข้างบนของ ü ออกไป เช่น ü –> yu üe –> yue
-ถ้าใช้ควบคู่กับพยัญชนะ l, n จะละสองจุดไม่ได้ ไม่นั้นจะไปซ้ำกับเสียงu (อู) ทำให้เกิดการสับสนได้
- สระ er เช่น 兒 เมื่อทำหน้าที่เป็นสระต่อท้าย จะเขียนพินอินแค่ r เท่านั้น เช่น 一點兒 yīdiǎnr
แสดงความคิดเห็น