บทที่2| เสียงวรรณยุกต์ (声调) ในภาษาจีน
*** ก่อนที่นักเรียนจะเริ่มเรียนบทที่ 2 เหล่าซือแนะนำว่าให้เรียนบทที่ 1 ให้เสร็จก่อน บทที่ 1
เสียงวรรณยุกต์ Tones (声调)
เสียงวรรณยุกต์จำเป็นมากไหมที่ต้องเรียน?
ตอบได้เลยว่าจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าคุณไม่จำแล้วคุณจะออกเสียงถูกต้องได้อย่างไร เพียงแค่เสียงวรรณยุกต์ต่างกัน ความหมายก็จะต่างไปด้วย ตย. คำว่า มา Mā แปลว่า แม่ แต่ คำว่า ม่า Mà แปลว่า ต่อว่า
เสียงวรรณยุกต์คืออะไร?
เสียงวรรณยุกต์คือ ระดับเสียงสูง ต่ำ ในภาษา ซึ่งสามารถทำให้ความหมายของคำเปลี่ยนไป (เช่น ภาษาไทยก็มีคำว่า สวย กับ ซวย) แต่มีบางภาษาที่ไม่มีเสียงวรรณยุกต์...
บทที่1| พินอิน Pinyin (拼音) พยัญชนะและสระในภาษาจีน
พินอิน Pinyin (拼音)
บทนำเกี่ยวกับภาษาจีน
บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า จริงๆแล้วภาษาจีนนั้นมีแบ่งอยู่2 แบบ ได้แก่ แบบจีน และ แบบไต้หวัน ถ้าเป็นแบบไต้หวันเขายังคงยึดแบบดั้งเดิมของจีนที่ใช้กันมาช้านาน นั้นก็คือตัวอักษรจีนแบบตัวเต็ม และใช้ระบบจู้อิน Zhuyin ( 注音) ในการสะกดคำ แต่ ณ ปัจจุบันนี้ ในประเทศจีนได้เปลี่ยนแปลงมาใช้ระบบพินอิน Pinyin (拼音) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้อักษรโรมันมาใช้เป็นสัญลักษณ์ในการสะกดคำ ซึ่งมันทำให้ง่ายต่อการเรียภาษาจีนมากขึ้น ซึ่งทำให้ระบบนี้เป็นที่แพร่หลายมากกว่าระบบจู้อิน ที่ใช้ตัวอักษรที่คิดค้นขึ้นมาเอง และในวันนี้เราจะมาเรียนการสะกดคำง่ายๆแบบ Pinyin กันก่อนกันดีกว่านะคะ
พินอินคืออะไรกันน้า?
ก่อนที่เราจะไปเรียนภาษาจีนกันแบบจริงๆจังๆ เหล่าซือ(แปลว่าอาจารย์ในภาษาจีน) จะอธิบายความหมายของ "พินอิน" ให้นักเรียนทุกคนฟังก่อน "Pinyin พินอิน 拼音"...